วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2554

ค ว า ม สุ ข.. ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ..

ค ว า ม สุ ข..
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ  ..

มั น เ กิ ด จ า ก ส่ ว น ลึ ก ภ า ย ใ น 

ส่ ว น ที่ ไว ต่ อ สั ม ผั ส ค ว า ม รู้ สึ ก .. อ บ อุ่ น ลึก อ ยููู่ ข้ า ง ใ น

 















มันมีความร้อน ไออุ่นๆ แผ่ซ่าน ออกมา
เหมือนมันมี ป ร ะ จุ ไ ฟ ฟ้ า กำ ลั ง เ ดิ น อ ยู่ ใ น ตั ว เ ร า




มั น คื อ ค ว า ม รู้ สึ ก จ า ก ไ อ อุ่ น แ ห่ ง รั ก 
ไม่ว่าจะเป็นคนที่รัก เพื่อน พี่ น้อง หรือคนรู้จัก
คนที่เวลานั่งพักอยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกปลอดภัย
ไม่มีความระแวงใดๆ  ไม่มีอคติ ไม่มีคำว่า ไม่เชื่อใจ
อยู่อย่างสบายใจ ไปไหนไปกัน 

 ข อ เ พี ย ง แ ค่ เ ปิ ด ใ จ    
ไ ข กุ ญ แ จ ทุ บ กำ แ พ ง 
ที่ ม อ ง ไ ม่ เ ห็ น อ อ ก ไ ป
ทุบทิ้งไป อย่าใส่ใจ ช่างมันปะไร มันก็แค่เสียฟอร์ม

 

 แต่ สิ่งที่รู้ได้ คือ ค ว า ม อ บ อุ่ น ใจ  

เ กิ ด ขึ้ น ข้ า ง ใ น หั ว ใ จ เ ร า เ อ ง

 

 THAT IS THIS LOVE...

... and THAT IS THIS LOVE ..

THAT IS THIS LOVE...

... and THAT IS THIS LOVE ..

 

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

สะบายดี เวียงจันทร์ ความประทับใจที่ไม่ควรไปคนเดียว

สะบายดี เวียงจันทร์

ความประทับใจที่ไม่ควรไปคนเดียว 


สิ่งแรกที่คนนำทางพาเราไปเมื่อถึงเวียงจันทร์ คือ ประตูแห่งชัยชนะ ประตูเมืองเวียงจันทร์



หลังจากนั้นก็ไปเสริมศิริมงคลด้วยการไหว้พระขอพร ที่วัดศรีสะเกด


วัดนี้เข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนเราทะลุมิติย้อนเวลากลับไปสัก 200 ปี เหมือนเข้าไปอยู่ในหนังเจ้า 
จักรๆ วงศ์ช่อง 7 ตอนเช้า


หลายสิ่งหลายอย่างสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มขลังของวิถีอารยธรรม
 
เราสักการะพระประธานในโบสถ์ ด้วยบายสีคู่


ทำจากเทียนหล่อเป็นดอกๆ คล้ายรังผึ้ง


ใช้อธิษฐานขอพร สะเดาะห์เคราะห์ ขอคู่








 หรือถ้าขอพรทั่วไป ก็ชุดเล็ก
ตามรูป
ถาดธูปเทียน ดอกไม้ ขอพร ชุดเล็ก จะเห็นวางเรียงกันเต็มพื้นโบสถ์  พอธูปหมดไปครึ่งนึง ก็จะมีเณรมาเก็บไป 




 ส่วนผลไม้ กล้วย มะพร้าว ต่างคนต่างเอามากันเอง  หรือซื้อต่างหาก มีแม่ค้าขายอยู่ในวัด  ไหว้เสร็จ
ก็ลากลับบ้านเอาไปกินแล้วโชคดี

 

                                                                  แล้วเราก็ไปตลาด
ดูๆ ภายนอกแล้ว เหมือนไม่ต่างจากตลาดต่างจังหวัดบ้านเรา 



แต่.. พอเดินเข้าไปข้างใน
มันไม่เหมือนบ้านเรา





 คนที่นี่ชอบกินแมลง  มีขายเยอะมาก และถูกมาก
ไม่ว่าตั๊กแตน จั๊กจั่น แมงอะไรไม่รู้ เยอะไปหมด
 

หอมใบมะกรูด ทอดกรอบ
ดูน่ากินเหมือนกันแฮะ
ถ้าจำไม่ผิด เหมือนว่าจานละ 10 บาท บ้านเรา แต่เป็นเงินกีบ ก็หลายพันอยู่






































 มีปลาแม่น้ำโขงมากมาย ราคาถูก 
แถมยังสด และเนื้อหวานมากด้วย













 และที่ขาดไม่ได้ คือ ไข่มดแดงอันโอชะ
 














สาวๆ นุ่งซิ่นมีให้เห็นทั่วไป  น่ารักมาก


ร้านขายผ้าซิ่นก็มีมากมาย 
ผ้าทอราคาถูก คุณภาพดีทั้งนั้น
ต่อราคาได้













 
ไม้แกะสลักที่ส่วนใหญ่เป็นไม้หอม กฤษณา ที่ในไทยห้ามซี้อขาย แต่ที่นี่ ราคาถูกมาก..กก โดยเฉพาะเส้นทางออกนอกเมือง จากเวียงจันทร์ไปวังเวียง มีร้านแกะสลักไม้ริมถนนให้เห็นมากมาย


และสำหรับคนที่ชอบเครื่องเงิน 
ที่ลาวมีให้เลือกมากมาย ราคาถูกกว่าไทยครึ่งต่อครึ่ง แต่ต้องต่อราคาดีๆ







เฝอ หรือก๋วยเตี๋ยวน้ำแสนอร่อย 
ที่กินกับหอมแดง มะนาว ถั่วงอกและน้ำพริกเผา 
ต้องลองเองแล้วจะรู้ถึงความแซ่บ

ราคาชามละ 40 บาท ถือว่าแพงสำหรับคนลาว เพราะค่าครองชีพถูกมาก ขนาดผู้จัดการโรงแรมอาวุโส ยังได้เงินเดือนแค่ 5000 เท่านั้นเอง





ความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนที่เวียงจันทร์ จะยังคงอยู่ตลอดไป








.. หากเว้นแต่ว่า "คำสัญญา" ต่างหาก ..ที่ถูกลืม ..