วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555

วันสุข [ F r i d a y ]


Text  by : Nongnarunart  Phraichitr
วันสุข [ F r i d a y  ]



                มีไม่กี่ศุกร์หรอกที่รู้สึกอิสระมากกว่าปกติ ร่าเริงมากขึ้น สนุกมากขึ้น อย่างศุกร์ที่ผ่านมาพอรู้ตัวเองว่าอยากจะพัก คืนวันศุกร์ก็เลยกลายเป็นวันต้องสุข ถ้าอยู่ไม่สุขก็ต้องทำให้เป็นวันที่มีค่าอย่างน้อยถ้าได้งาน หรือทำงานได้ ก็ถือว่าเป็นสุขอย่างหนึ่ง
เย็นวันศุกร์ เป็นวันสุดท้ายของปลายสัปดาห์ของการทำงาน ที่ทุกๆ คนในออฟฟิศพร้อมใจกันสร้างความเงียบสงัดให้กับออฟฟิศราวป่าช้าตั้งแต่เวลาเพียงทุ่มกว่าๆ ตรงกันข้ามกับวันแรกๆ ของสัปดาห์อย่างจันทร์ อังคาร 
                ทั้งบรรยากาศรอบข้าง ความมืดที่รายล้อม ความเงียบเหงาค่อยๆ กระชากฟิลล์ที่กำลังเบื่อกับงานตรงหน้าอย่างเป็นใจด้วยเสียงหวอขอความช่วยเหลือจากโทรศัพท์มือถือที่วันดีคืนดีหน้าจอก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย 
                เฮ้ย .. ยังมีชีวิตอยู่อีกเหรอวะ  นึกว่าทำงานจนตายไปแล้ว เสียงเพื่อนกัดมาตามสายโทรศัพท์ จนเสียวแปล๊บเข้าไปถึงขั้วหัวใจ
            “เออว่ะ .. จนบางที ก็ลืมไปเลยว่า มีเพื่อน ไม่โทรมาซะเที่ยงคืนเลยล่ะแม่คู๊ณ!!”  เราเลยตอบเพื่อนไปตามสันดานกัดทีเล่นทีจริง  เพราะบางทีการที่เราหมกอยู่กับงานตรงหน้าที่ติดพัน ทำให้บางครั้งก็ลืมคิดถึงเรื่องอื่นๆ ไปโดยปริยาย ยกเว้นแต่จะมีบางสิ่งที่คุ้นเตือนความทรงจำ หรือบางสิ่งให้ระลึกถึงความรู้สึกย้ำคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ค้างอยู่ในหัวใจนานๆ อย่างเช่นเวลานี้  
            “เออๆ เพื่อนเก่ามันเริ่มขึ้นสนิมแล้ว จะไปสู้ของใหม่ได้ไง เพื่อนใหม่มันปรนเปรอความสุขให้จนลืมเพื่อนเก่าแล้วล่ะซีเสียงแหลมแจ๋วๆ บาดหูได้เจ็บจริงๆ  สันดานยังเหมือนเดิม ไอ้เพื่อนคนนี้ กัดไม่ปล่อย ต่อยไม่ให้ตั้งตัว
            “โอเคๆ ยอม  มีอะไรให้รับใช้..” 
เฮ้ย! นับวันยิ่งทำตัวเหมือนเซเว่นนะแก ทำงานตลอด 24 ชม. นี่มันก็ตั้งสี่ทุ่มแล้ว และวันนี้ก็เป็นวันสุขนะเว๊ย ถ้าเป็นวันจันทร์ชั้นก็คงไม่โทรหาแกหรอก เพราะฉะนั้น .. ออกมาแหวกเบียร์กะชั้นเดี๋ยวนี้ ..”
วันสุข เป็นอันรู้กันว่า คืนวันศุกร์สนุกแน่ ส่วนวันเศร้า ก็จะมักเป็นวันเสาร์ (เสียงอาจเพี้ยนนิดหน่อย) เพราะวันเสาร์มักอยู่บ้านหรือมักไม่ได้อยู่กับเพื่อน 
 “เอ่อ ..”
“ P L E A S E.. ” น้ำเสียงเว้าวอนอ้อนมาตามสาย จนสามารถทะลายกำแพงความรับผิดชอบชั่วดีทั้งหลายแหล่จนเริ่มกระเจิงได้
                ก็อยากอยู่  แต่ก็ไม่รู้จะไปสุขกะใคร ไอ้เรามันไม่มีแฟน คนมีแฟนเค้าก็ต้องอยู่กับแฟนเค้าสินะ เพื่อนมันต้องมาทีหลัง ใจหนึ่งที่ลิงโลดอยากกระโดดออกไปสนุกเดี๋ยวนี้ กัดตอบเพื่อนไป ทั้งๆ ที่รู้ตัวว่าสิ่งที่พูดออกไป เราเป็นฝ่ายเจ็บลึกอยู่ในใจ
                ไม่ต้องมาจิกเลย  ออกมาเดี๋ยวนี้ จะมาไม่มา พวกชั้นอยู่ซอย 4 ร้านสีขาว ออกมาเลยนะ อย่าให้รอนาน เดี๋ยวตามไม่ทัน ไม่รู้ด้วย ยิ่งไม่ได้เจอกันนาน ไม่รู้ว่าเพื่อนเรายังเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า” 

 แน๊ .. ยังหยอดลูกแ_ก ตบท้ายอีกดอก สุดยอดเลยเพื่อน ไม่รู้จะคบด้วยดีหรือเปล่าเนี่ย
เพื่อนมันวางสายไปแล้ว แต่เรายังไม่สามารถตัดสินใจได้เลยว่าจะไปหาพวกมันดีหรือเปล่า เพราะงานตรงหน้าก็ยังไม่เสร็จ  เหลือบมองดูเวลาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ บอกเวลา 4 ทุ่ม 
                จู่จู่นางฟ้าส่วนคุณธรรมหน้างอออกมาต่อว่า
อายุเท่าไหร่แล้ว จะทิ้งงานไปเที่ยวสนุกไม่ได้นะ ต้องทำงานให้เสร็จก่อน ถึงแม้จะรู้ว่าไม่เสร็จอยู่ดี แต่ก็ควรจะทำให้เต็มที่จนกว่าจะไม่ไหวแล้วกลับไปนอน ไม่ใช่ไปเที่ยวต่อ
อีกด้านหนึ่งของแสงสี ปิศาจสุราหุ่นเซ็กซี่ยั่วยวน ออกมาทักทายด้วยรอยยิ้มหวาน
เพื่อนอุตส่าห์คิดถึง ไม่ได้เจอกันร่วมปีแล้วไม่ใช่เหรอ  เค้าคงเสียใจแย่  แต่งานนี่เห็นทำทุกวันเลย ลำเอียงจังนะ
เสียงสองสาวในมโนสำนึกทะเลาะตบตีกันเสียงดังลั่นอยู่ในหัว ขณะที่สายตายังไม่ละจากงานตรงหน้า มันยังคงดำเนินอยู่ต่อไปเรื่อยๆ อย่างไร้อารมณ์ 
ทำงานไปเถอะ วันหนึ่งก็ต้องมีคนเห็นความดี พอวันนั้นมาถึงเราจะรู้ว่าที่เราเหนื่อยมาน่ะมันไม่เหนื่อยฟรีหรอก มันต้องมีสิ่งดีๆ เข้ามาสักวัน นางฟ้ายิ้มหวานรักษาฟอร์มนางเอกได้อย่างแนบเนียนค่อยๆ กระซิบเบาๆ ข้างๆ หู
เวลาผ่านไปอีก 5 นาที จิตใจเริ่มกระสันต์หวั่นไหว สายตาเหลือบดูเวลาที่ค่อยๆ เดินผ่านไปตรงหน้าสลับกับงานที่ยังคงทำต่อเนื่อง เริ่มมีความถี่มากขึ้น ประหนึ่งว่าอยากจะเร่งให้จบๆ ไปให้ไวๆ
ปิศาจฝั่งด้านมืดเดินลอยหน้าลอยตาออกมายั่วยวน
ใครต่อใคร เค้าก็ไปเที่ยวกับแฟน บ้างก็อยู่กับแฟน แต่คนที่ไม่มีแฟนต้องทำแต่งาน หวังจะเอาหน้าที่การงานมาทดแทน  เชอะ..”
                อยากจะเอาหมอนฟาดปากอีนังปิศาจปากบอนซะนี่จริง ๆ อีนี่อ้าปากทีไร คำพูดมันทิ่มแทงจิตใจเราให้เจ็บปวดทุกที 
                จนกระทั่งเทพแห่งโชคชะตาที่คงแอบดูอยู่นาน อดรนทนไม่ไหว ฟันธงลงมา ให้เครื่องคอมพิวเตอร์และงานที่ทำตรงหน้าต้องมีอันเป็นไป 
เครื่องแฮงค์  ฮาร์ดดิสต์เต็ม ข้อมูลบางส่วนยังไม่ได้ถูกบันทึก ต้องทำใหม่” 
เริ่มมีความเซ็งเกิดขึ้นนิดหน่อย ไม่ถึงเสี้ยววินาที
                บัดนั้น ในใจมันแอบไชโยโห่ร้องเหมือนดีใจอะไรสักอย่าง อารมณ์ตอนนั้นกลับนึกขอบคุณเครื่องคอมฯ ที่มาเสียเอาเวลาที่รู้กาลเทศะอย่างนี้ จึงรี่เข้าไปปิดเครื่อง ปิดแอร์ ปิดไฟ เพื่อให้เครื่องได้พักผ่อนเต็มที่ แล้วรีบจรลีปรี่ไปที่ที่ซึ่งบรรดาสหาย ได้พำนักพักเมากันอยู่
การเดินทางจากพระราม 9 จนถึงสีลม สายตาแทบจะทำหน้าที่บอกเวลาแทนนาฬิกาได้ เพราะความเร็วที่ผกผันกับเวลาทำให้สายตาแทบจะไม่ละจากหน้าปัด ยิ่งใช้เวลาน้อยเท่าไร ยิ่งอยู่กับเพื่อนได้นานขึ้น และจะได้ใช้เวลาแห่งคืนวันสุขได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
       เวลาห้าทุ่มเศษ เท้าก้าวออกมาจากลานจอดรถถนนสีลม สายตามุ่งหน้าไปที่ซอย 4
หยิบอาวุธในกระเป๋าสตางค์คู่กายออกมาดู ปรากฏว่าเหลืออยู่ 300 กว่าบาท ตายล่ะวา
ตอนนี้ห้าทุ่มกว่า ร้านปิดตี 2 เงินในกระเป๋าต้องหักไว้ 90 บาทสำหรับค่าจอดรถ ชั่วโมงละ 30 เท่ากับว่าต้องเสียเบียร์ไปขวดนึง เดี๋ยวขากลับต้องแวะฉี่ด้วยจะได้คุ้ม 
                พลันสายตาเหลือบไปเห็นเซเว่นฯ ที่เปิด 24 ชม. ที่เพื่อนมันชอบค่อนแคะเรา ก็เกิดประกายความคิดอันชาญฉลาดให้กับตัวเอง จึงเดินลิ่วๆ ไปสู่ประตูเขียวแดงนั้น
                และกลับออกมาพร้อมกับเบียร์หิมะเย็นเฉียบ ที่รสชาติหวานเจี๊ยบเมื่อซดผ่านลำคอ 
เงินในกระเป๋ายังเหลือแบ๊งค์แดงอยู่ 2 ใบให้อุ่นใจ เพราะเบียร์ขวดนี้ใช้เศษเงินที่รวมๆ กันแลกมาเพื่อที่จะได้เหลือเงินไปซื้อเบียร์โพสต์ในร้านได้อย่างน้อย ๆ 2 ขวด  
              
                พอถึงร้านเพื่อนก็ต่อว่าทันที
                ไม่มาเอาพรุ่งนี้เลยล่ะ แม่
            “มาแล้วยังดีกว่าไม่มานะเว้ย”   และไม่ต้องรอให้เพื่อนชวนคำใดต่อไป เราก็ลากเพื่อนเข้าไปสนุกสุดเหวี่ยงกันในฟลอร์ 20 เพลงรวด ไม่ต้องอธิบายสิ่งใด ไม่ต้องพูดคำหวาน  มีแต่สีหน้าและรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความสนุกและเข้าใจถึงคำว่าเพื่อนที่เต็มไปด้วยความหมาย
                จบไปอีกวันสำหรับวันสุขที่ไม่เคยจดจำ ชั่วคืนที่รู้สึกว่าผิดเล็กๆ ที่ทิ้งงานมาเที่ยว แต่สุขล้นอยู่ในหัวใจ สดชื่น กระปรี้กระเปร่าจนทำให้อนุโลมที่จะทำผิดไปบ้างได้  สมกับคำร่ำลือ สมแล้วที่เรียกค่ำคืนนั้นว่า วันสุข 

ทุกอย่างลงตัวไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเมา มิตรภาพและการจัดสรรเรื่องการใช้จ่าย
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าตัดสินใจไม่มา แล้วนั่งทำงานต่อไป อะไรจะเกิดขึ้น.. รู้แต่ว่าวันนี้..วันเศร้า .. 



                                                          THE  END

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น