เมื่อวันเช็คชื่อเด็กหญิง ที่ผ่านมา (มาคะ 555) ฉันมีโอกาสได้รับแรงดึงดูดจากแรงบุญที่มองไม่เห็น ดึงดูดเราเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศบุญ และการเจริญภาวนา อันสงบเงียบท่ามกลางความวุ่นวายกลางเมืองแนวขอบกรุงเทพมหานคร ที่ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่า ความสงบนั้นมีจริง หาไม่ยาก และอยู่ไม่ไกลจากตัวเราเลย..
ลักษณะของพระพุทธรูปในสำนักสงฆ์แห่งนี้ ดูเป็นงานประติมากรรมสมัยใหม่ที่จงใจให้ความรู้สึกเรียบง่าย และงดงามว่างเปล่าอย่างบอกไม่ถูก เส้นที่น้อยและ สีปูนสดด้านทำให้พระพุทธรูปดูสงบนิ่ง และสะอาดสะอ้าน ตัดกับสีทองอ่อน ทำให้พระพุทธรูปดูสง่างาม เปล่งประกาย
ศาลาธรรม ที่เป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติบำเพ็ญภาวนา สวดมนต์ และนั่งสมาธิ แม้ว่าจะเด่นตระหง่านอยู่บนสนามหญ้าที่เปิดโล่ง แต่ภายในก็รับลมโกรก จากหน้าต่างรายรอบทุกด้าน ที่ถูกออกแบบมาให้ระบายความร้อนของศาลาแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
ดอกลำโพงสีเหลืองทองอร่าม ยืนต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการส่องประกายรับแดดยามบ่ายได้อย่างสวยงาม ราวกับภาพวาดที่จิตรกรจากธรรมชาติได้บรรจงร่ายมนต์ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์
บริเวณลานกว้าง มีพระพุทธรูปปางลีลาปั้นปูนสดสีด้าน ยืนเด่นตระหง่านอยู่ใต้ร่มโพธิ์ อันร่มเย็น
เมื่อเดินเข้าไปด้านใน จะเห็นพื่้นที่ปูเสื่อบนผืนทราย รายรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่ให้อาศัยร่มเงา เพื่อฝึกฝนในการนั่งสมาธิ และสวดมนต์เย็นร่วมกัน
นอกจากความสงบร่มเย็นที่ได้รับแล้ว ยังมองเห็นความทันสมัยในการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ มาประยุกต์ใช้กับสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ นั่นคือการใช้ระบบโซล่าเซลส์ หรือการใช้พลังจากแสงอาทิตย์ ในการปั่นไฟฟ้าใช้เอง ถือเป็นทางเลือกที่ทันสมัยในเชิงวิทยาศาสตร์ ที่สอดคล้องไปกับชีวิตและความเชื่อของคนไทยได้อย่างมีคุณค่า และชั้นเชิงในประโยชน์ใช้สอยจริงๆ
หากสนใจอยากรับรู้ถึงความเรียบง่ายในจิตใจ ก็ลองแวะเวียนเข้าไปศึกษา และผ่อนคลายความยากในการใช้ชีวิตของเรา เพื่อทำให้ชีวิตมันง่ายเข้า และมีความสุขอย่างง่ายดาย ได้ที่ สำนักสงฆ์แทนวันดีเจริญสุข อยู่ถนนท่าข้าม ด้านหลังบิ๊กซีพระราม 2
หาไม่ยาก แต่ระวังว่าอาจจะไม่อยากกลับออกมาง่ายๆ :)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น